พวกคุณเป็นใคร ไม่เห็นรู้จักเลย ?

“พวกคุณเป็นใคร ไม่เห็นเคยได้ยิน มีนามบัตรไหม มีเว็บไซต์ หรือ เพจที่ให้ผมพอรู้จักกับคุณบ้างไหม ผมจะได้มั่นใจว่าไปบอกเจ้านายว่าพวกคุณทำธุรกิจจริงๆ ไม่ใช่แค่เด็กเล่นขายของ”

“พวกคุณเป็นใคร เคยทำงานนี้มาก่อนหรือเปล่า ทำมานานแล้วหรือยัง ขอดูรายชื่อลูกค้าเก่า หรือ ผลงานเก่าๆ หน่อยว่าเคยทำอะไรมาแล้วบ้าง”

ตอนพวกเราเริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆ ในวันแรกๆ แน่นอนว่าไม่มีใครรู้จักเราสักคน นามบัตรช่วงนั้นก็ยังไม่มี เมื่อคู่ค้าถาม ยังจำได้อยู่เลยว่าตอบกลับด้วยยิ้มแห้งๆ ว่า “หมดครับ เดี๋ยวเอามาให้ครั้งหน้านะครับ” “เดี๋ยวส่งสไลด์ตามไปให้นะครับ” ที่ต้องตอบกลับไปแบบนี้เพราะเราก็เพิ่มเริ่มธุรกิจ คือถ้าเราก่อตั้งมานาน มีชื่อเสียง มีลูกค้าในมือมากมายมันคงเป็นเรื่องง่าย

ถ้าถามว่าสำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นล่ะ ควรทำอะไรบ้างเพื่อให้มีตัวตน และเพิ่มความน่าเชื่อถือ ถ้าเพียงวันนั้นมีคนมาบอกเราแบบนี้ก็ควจะดี ว่าให้มีนามบัตรพกติดตัวไว้ตลอด มีเว็บไซต์ให้เข้าไปดูมีรายละเอียดที่เข้าถึงได้ หรือแม้กระทั้งการถ่ายวีดีโอแนะนำตัว และมีการวาง concept อะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็มีตัวตนได้แล้ว สามารถบอกให้คู่ค้าเข้าไปดูข้อมูลว่าเราเป็นใคร มีให้บริการด้านไหนบ้าง แค่นี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นง่ายๆ แล้ว และถ้าคุณทำธุรกิจ B2B ก็อย่าลืมที่จะมีบัญชี Linkedin ด้วยล่ะ มีโปรไฟลทำงานอะไรมาบ้าง เชี่ยวชาญด้านอะไร เพราะมันคือ เรื่องมาตรฐานสากลที่คู่ค้าจะต้องตรวจสอบที่มาที่ไปของเรากันบ้าง

เพราะทุกวันนี้ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ต่างถูกเช็คได้หมด ซึ่งไม่ได้เป็นแค่กับบริษัท แม้ขนาดฝ่าย HR ก็ใช้วิธีเช็คตัวตนผู้สมัครงานกันหมดว่าเป็นใครมาจากไหน ฉะนั้นนี่คือสิ่งที่ตอนเริ่มต้นเราก็ไม่รู้เช่นกัน จนทำให้เราพลาดโอกาสหลายๆ อย่างไป และตอนนี้เมื่อเรารู้แล้ว ต่อให้เป็นธุรกิจที่เพิ่งเปิดได้ไม่กี่วันเราก็ต้องเตรียมทำตัวให้น่าเชื่อถือ มีข้อมูลพร้อมรองรับการค้นหาของลูกค้า และคู่ค้าที่เราไปติดต่อ ที่จริงแล้วการเริ่มต้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแต่ให้คุณคิดตามว่าถ้าคุณเป็นลูกค้าคุณจะอยากรู้อะไรบ้างแล้วคุณจะไปหาข้อมูลเหล่านั้นที่ไหน เพียงคุณเตรียมข้อมูลเหล่านั้นให้พร้อม และนำตัวเองไปอยู่ในที่ๆ ลูกค้าจะ search เดี๋ยวเขาก็ได้เจอคุณ

ตั้งแต่ที่พวกเราเริ่มสร้างเว็บไซต์ Linkedin และ Facebook Page ขึ้นมาพร้อมใส่ข้อมูลพื้นฐานต่างๆ เราได้ทำสิ่งเหล่านี้ครั้งเดียวจบตั้งแต่วันนั้น แต่นับจนถึงวันนี้ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีการแตะอะไรเพิ่มเลยเราก็ยังมีลูกค้าที่คอยส่งข้อความเข้ามาสนใจอยากใช้บริการเราอยู่เรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้นี่ก็คือ Basic ของการทำ Digital Footprint ที่ได้ช่วยทำให้ธุรกิจหน้าใหม่อย่างพวกเรา ณ วันนั้นเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น ขนาดน้องๆ ที่มาสมัครงานยังรู้เรื่องที่มาที่ไปของบริษัทเราเลย

หลังจากที่เราเริ่มตั้งตัวทางโลกออนไลน์ได้สักพัก เพื่อนๆ รอบข้าง หรือแม้แต่คู่ค้าบางคนก็ได้มาเล่าถึงบัญหาเหล่านี้ให้เราฟังเหมือนกัน พวกเขาอยากรู้ว่าเรามีวิธีแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร เราเล็งเห็นว่าเรื่องนี้เป็น pain ที่มีอยู่จริง และนี่ก็คือที่มาว่าทำไมเราถึงอยากให้บริการทำ Digital Footprint Checkup

แทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ

ย้อนกลับไปช่วงแรกๆ ที่เราเริ่มมีลูกค้าเข้ามาเพิ่มขึ้น เราได้ทำการจ้างพนักงานคนแรกๆ มาช่วยงานซึ่งก็เป็นน้องแถวบ้านที่รู้จักกัน ทีนี้เมื่อเราไม่อยู่ ต้องไปดูงานที่ต่างประเทศน้องคนนี้ก็เริ่มเกเร ไม่ส่งงานตามเวลา ทำให้พวกเรานั้นส่งงานให้ลูกค้าไม่ทัน รวมไปถึงเมื่อเริ่มมีปัญหากัน น้องคนนี้ก็ทำท่าเหมือนกับว่าจะมาลบข้อมูลต่างๆ ที่ทำไว้ สุดท้ายแล้วเราไหวตัวทัน และสามารถล็อคข้อมูลบางส่วนได้ แต่ก็มีหลายส่วนที่ไม่สามารถกู้กลับคืนมา ความเสียหายครั้งนี้สอนให้เราได้รู้ว่าการที่เราไม่มีระบบควบคุมข้อมูลพวกนี้ มันไม่ใช่คนข้างนอกหรอกที่ทำเราเจ็บ มันคือคนในที่เราไว้ใจให้เข้าถึงข้อมูลภายใน และเราให้สิทธิ์จัดการกับเขาไป การกระทำนี้เวลาโดนแทงข้างหลังที มันบาดเจ็บต่อ ตัวธุรกิจอย่างหนักหน่วงมากเลย

อาจจะเรียกว่าโชคดีก็ได้ที่ตอนนั้นเราเพิ่งเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ ในรูปแบบบุคคลธรรมดา เพราะเมื่อเราได้มาจัดตั้งเป็นบริษัทมันทำให้เรารู้ว่าเรื่องการควบคุมระบบภายในเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ ไม่ว่าจะเป็นระดับการใช้ username และ password ต่างๆ เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ การให้ authorization กับ lever of access นั่นเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการดูแลให้ถูกต้องตั้งแต่วันแรก ที่มาของบริการ Digital Console ของ Extranice จึงถูกวางแผน และจัดการตั้งแต่เริ่มต้น เราก็ไม่เคยเจอปัญหาเหล่านี้อีกเลยเพราะเราจะไม่ยอมให้ใครมาแทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจอีกต่อไป

ความจำสั้น แต่รักฉันยาว

อะไรคือ ความจำสั้น แต่รักฉันยาว แน่นอนว่าที่เกริ่นมานี้ไม่ได้เกี่ยวกับหนังรักโรแมนติกแต่อย่างใด แต่สิ่งที่เกี่ยวกันของ Concept ในประโยคนี้ ก็คือ ในการทำแบรนด์ การตลาด และอะไรหลายๆอย่างที่เราเคยทำมา เราพบว่า หลายๆครั้งที่เราพยายามจะขายอะไรบางอย่าง ว่าสินค้านี้ดีหรือแตกต่างยังไง ผู้คนกลับจำชื่อแบรนด์ หรือสินค้าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

แต่พอวันนึงเมื่อเราได้เปลี่ยนวิธีการเล่าเรื่อง สิ่งที่ต่างออกไปคือ เขาสามารถจำความรู้สึก และเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์นั้นๆที่เราเล่าได้ โดยเฉพาะในครั้งแรก ทั้งเรื่องเล่าที่เขารู้สึกว่าตัวเองเกี่ยวข้องโดยตรง หรือสิ่งที่เขาสัมผัสทางอารมณ์ได้ เขาจะจำมันได้เป็นอย่างดี

ฉะนั้นในการเล่าเรื่องๆหนึ่ง จึงมีความสำคัญมากๆ เราพบว่ามันช่วยให้ผู้คนจดจำเราได้ง่ายกว่า เขาสามารถเข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึก และอินไปกับเราได้ง่ายขึ้น เพราะเขารู้สึกว่าเขารู้จักกับเราแล้ว โอกาสในการขาย และต่อยอดอีกหลายๆอย่างจึงง่ายขึ้นตามไปด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราถึงได้เขียนหน้านี้ขึ้นมาให้ทุกคนได้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นที่มาที่ไปของบริการ และธุรกิจของเรา หรือแม้แต่การให้บริการในการทำ Signature Identity เองก็ตาม 

ทั้งๆที่บริการของเราอาจจะมีส่วนคล้ายกับคู่แข่งหลายๆคนในท้องตลาด แต่ที่เราเล่ามาทั้งหมดนี้ก็เพราะเราอยากคุณรู้จักกับเราให้มากขึ้น ซึ่งจากผลลัพธ์ที่เราได้มานั้น ทำให้เราเชื่อว่าจะช่วยธุรกิจของใครได้อีกหลายๆคนเช่นกัน ถ้าคุณเห็นความสำคัญในการสร้างตัวตน และพลังในการสร้างเรื่องราวให้ผู้คนจดจำไปได้ตลอดแล้วล่ะก็ บริการ Signature Identity ของ Extranice ก็เป็นอะไรที่ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว

1% ที่แตกต่าง

คนส่วนใหญ่บนโลกนี้เป็นคนชอบเสพ มีมากถึง 99% เลยก็ว่าได้ แต่เสพที่ว่านี้คือ การเสพข้อมูล และการเสพข้อมูลด้วยจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่กล่าวมานั้น มากซะจนเป็นโอกาสที่ดีสำหรับใครหลายๆคนในการเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ แต่แน่นอนว่าโอกาส และความเสี่ยงมักมาด้วยกัน เพราะถ้าคุณจัดการได้ไม่ดี คนอื่นก็จะแย่งมันไป ถ้าคุณไม่ทำ คนอื่นก็จะทำ ถ้าคุณไม่เป็นคนสร้าง หรือไม่มีการสื่อสารออกไป คนอื่นก็ยังจะทำอยู่ดี และ ถ้าหากสินค้า หรือบริการของคุณยิ่งเป็นที่ต้องการ แต่คุณไม่ทำการโปรโมทใดๆเลย แน่นอนว่าคู่แข่งของคุณก็จะทำการตลาดบน Demand ที่เขากำลังมองหาคุณนั่นแหละ  

คุณสามารถออกแบบสิ่งที่คุณต้องการได้เสมอ  เพราะฉะนั้นจงเป็น 1 % ที่แตกต่าง เพราะ 99% ที่เหลือบนโลกใบนี้จะเป็นคนเสพ  ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจให้มี Digital Footprint ที่ดี หรือ จะต้องควบคุมจัดการดูแลอย่างปลอดภัยด้วย Digital Console รวมไปถึงการสร้าง Signature Identity ให้ชัดเจน แตกต่าง และจดจำได้นั้น ทั้งหมดนี้คุณเลือกเองได้ จงเลือกว่าคุณจะเป็นผู้ผลิต หรือ ผู้เสพกันแน่

เพราะถ้าคุณต้องการที่จะป็น 1 % ที่แตกต่างล่ะก็ พวกเราที่ Extranice ก็พร้อมที่จะให้ช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่

ดูแลเหมือนธุรกิจตัวเอง

เอเจนซี่โฆษณาทำแคมเปญให้ลูกค้าที่บอกว่าดี แต่กลับไม่เห็นนำสิ่งที่ว่าดีเหล่านี้มาทำกับธุรกิจตัวเอง แตกต่างจากที่ Extranice ทุกอย่างที่เราพูดที่เราทำให้ลูกค้า คือวิธีการที่เราใช้กับธุรกิจของเราเอง ฉะนั้นถ้ามันไม่ได้ผล เราเองเนี่ยแหละคือคนที่เจ็บที่สุด

ที่ Extranice ทุกๆ บริการที่เรามอบให้ลูกค้าเกิดจากสิ่งที่เราเรียนรู้จากข้อผิดพลาด เรารู้ และเข้าใจดีว่าความรู้สึกนั้นเป็นอย่างไร และเราก็ไม่อยากให้คุณต้องมาเจอกับความรู้สึกเหล่านี้ เราพร้อมที่จะดูแลคุณเสมือนธุรกิจของเราเอง

เมื่อคุณได้รู้จักกับเรามากขึ้นแล้ว ถ้าวันนี้คุณสนใจที่จะใช้บริการของเรา…กดที่ปุ่มด้านล่างนี้ได้เลย หรือจะไปอ่านบทความที่พวกเราเขียนก่อนก็ได้นะ จะได้ดูว่าสิ่งที่เรามอบให้คุณได้นั้น เป็นแบบที่คุณคิดไว้หรือเปล่า